วันศุกร์ที่ ๒๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๓

Daily $90K Sat


เอามาบันทึกไว้ครับว่ารายการ Daily $90K Sat ได้อันดับที่ 16739
หวังว่าถ้ามีโอกาสหน้าจะทำได้ดีขึ้น ^^

วันอังคารที่ ๑๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๓

Stanley Druckenmiller




พอดีผมหาข้อมูลต่างๆของ Stanley Druckenmiller แล้วเจออันนี้ครับ สรุปมาเป็นข้อๆเลย น่าจะเหมาะกับการนำไปเป็นไอเดียได้

*ข้อมูลเก่านิดนึงนะครับ


Fund or affiliation

  • Quantum Fund, Duquesne Fund

Methodology

  • Holding a core group of stocks long and a core group of shorts, then use leverage to trade S&P futures, bonds and currencies.

Research Techniques Employed

  • Focused his analysis on seeking to identify the factors that were strongly correlated to the stock price movement as opposed to looking at all the fundamentals.
  • He also used technical analysis.

Trading Techniques Employed

  • He never used valuation to time the markets. He use liquidity analysis and TA. Valuations only tells him how are a market can move if there is a catalyst.
  • To attain truly superior l-t returns is to grind it out until you’re up 30-40%, and then if you have convictions, go for a 100% year. If you can put together a few near-100% years and avoid losing years, you can achieve really outstanding l-t returns.
  • Soros taught: "when you have tremendous conviction on a trade, you have to go for the jugular. It takes courage to be a pig." As far as Soros is concerned, when you’re right on something, you can’t own enough.
  • If a trade doesn’t work, Soros is confident enough about his ability to win on other trades that he can easily walk away from the position.

Philosophy and beliefs

  • When you earn the right to be aggressive, you should be aggressive. A philosophy reinforced by Soros.
  • The way to build long-term returns is through preservation of capital and home runs.

History and other facts

  • At the age of 28 Druckenmiller launched Duquesne after a person offered him $10,000/mo. just to talk to him.
  • In 1982, after losing all his money, he landed a client who had sold out his software business. This individual account allowed him to start using shorts and leverage.
  • The queen in chess, which can move in all directions, is a far more powerful piece than the pawn, which can only move forward. [analogy: hedge funds vs. pension funds]

Examples

  • Was dead wrong entering 19 Oct. 87 with a leveraged long position. Market opened over 200 points lower, liquidated his entire position and went net short; and made a small profit.
  • Long Deutsche mark right after the fall of Berlin Wall in anticipation of expansionary fiscal policy and tight monetary policy.

Performance Record

  • 37% over 12 years: "The longest-running measure of Druckenmiller’s performance in the markets is his own Duquesne fund. Since its inception in 1980, the fund has averaged 37% annually."

วันศุกร์ที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๓

Week49(4)

และแล้วก็เป็นอีกสัปดาห์ที่ Jaw กินเงินจากทีมอื่นได้
ผมเห็นกราฟเทรดเดอร์ เพอฟอร์มของคู่หูจากทีม Jaw ต้องยอมรับว่าเข้าขากันจริง
เล่นสลับกันเข้าทำ ถ้าให้เทียบกับร่างกายก็คงเป็นขาซ้ายและขาขวา
ขาทั้ง2นั้นสลับกันก้าวเพื่อพาร่างกายเดินไปข้างหน้า
ผมชื่นชมในทีมเวิร์คของทีมนี้มากครับ แม้ว่าจะกินเงินทีมผมไปก็ตาม -*-

ผ่านการฝึกมา4สัปดาห์
โดยรวมถ้าคำนวณกันจริงๆแล้ว ทุกทีมเก่งครับ สู้ตลาดได้แน่นอน แต่บังเอิญว่ากติกาสำหรับการฝึกนี้ต้องมาสู้กันเอง
แต่ไม่ว่าใครจะชนะหรือแพ้ สิ่งที่ทุกคนได้แน่นอนคือทักษะที่จะเพิ่มขึ้น ^ ^

วันหยุดแบบนี้เอาอะไรมาให้เล่นกันดีกว่า

Au Dating Plus Game

วันเสาร์ที่ ๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๓

Category shaker

อัพบล็อกประจำสัปดาห์นี้
ผมพยายามจะอัพบล็อกให้ได้สัปดาห์ละครั้ง บางครั้งอาจจะไม่ได้มีเนื้อหาอะไรมากมายครับ

สัปดาห์นี้การเทรนกับทาง MudleyGroup เลเวล1 Betting Trade เริ่มเข้มข้นขึ้น
แต่ยังคงเป็นทีม Jaw ที่สามารถทำ CF เหนือกว่าคู่แข่ง และกินเงินไปได้อีกแล้ว นี่เป็นผลมาจาก Teamwork ครับ
Shark และ Eagle ยังไม่สามารถประสานผู้เล่นในทีมให้ช่วยกันเล่นได้ ถ้ายังแก้ไม่ได้น่าจะเหนื่อยหน่อย

ส่วนคะแนนส่วนตัวของเทรดเดอร์แต่ละคน มีเพียงคนเดียวที่ได้ไปทั้งๆที่มีคนทำ CF ในสัปดาห์นี้ได้ถึง 4 คน
นี่แสดงให้เห็นถึงความยากให้การที่เราจะต้องต่อสู้กับคนอื่นๆ นี่ขนาดแค่มีผู้เล่นในการฝึกนี้แค่ไม่กี่คนยังได้คะแนนกันยากมาก
ในตลาดจริง เราเจอผู้เล่นจำนวนมากกว่านี้เยอะ

และคะแนนของทีม Jaw ก็ยังคงเก็บเพิ่มได้อีก และอีก2ทีมผ่านมา3สัปดาห์ก็ยังไม่มีคะแนนในส่วนนี้เลย

ทีม Shark ของผมคงต้องพยายามให้มากขึ้นอีกครับ ^ ^


คราวนี้มาต่อด้วยเนื้อหาแบบมีสาระ
อันนี้ใช้ได้กับทุกอาชีพนะครับ ไม่ว่าจะทำธุรกิจ เป็นเทรดเดอร์ เป็นนักกีฬา หรือเป็นอะไรก็ตาม

ถ้าคุณเป็นผู้เล่นรองบ่อน เป็นมวยรองแล้วอยากจะก้าวเป็นผู้นำให้ได้
สิ่งแรกก็คือมองดูจุดอ่อนของตัวเอง และจุดแข็งของคู่แข่ง
ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามเราต้องหลีกเลี่ยงการเล่นบนจุดอ่อนของเรา และจุดแข็งของคู่แข่ง
เอาล่ะ ในกรณีที่เราเป็นมวยรอง เราต้องไม่เล่นตามเกมของคู่แข่ง เพราะว่าเป็นเกมที่เค้าถนัดและในเกมนั้นเค้านำเราอยู่
ถ้าเราไปเล่นตามเกมนั้น เราก็ยังคงตามหลังเค้าอยู่
ผู้เล่นประเภทมวยรองต้องสร้างเกมของตัวเองขึ้นมา
และถ้าเกมนี้มันทำให้เราโตขึ้นมาแบบก้าวกระโดดได้ มันจะเป็นกับดักให้คู่แข่งกระโดดเข้ามาในเกมของเราแทนครับ

^ ^

วันศุกร์ที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๓

Hubble NL Hold'em

วันนี้นั่งเล่นโป๊กเกอร์แบบ tourney อีกแล้ว แต่คนละรายการกับคราวที่แล้ว
ชื่อ Hubble NL Hold'em เป็นแบบ Freeroll เข้าเล่นฟรีเช่นเดิม ^ ^
คราวนี้ผู้เล่นเยอะกว่าครับ ตั้ง 9000คนแน่ะ นั่งเล่นยาวเลย สุดท้ายจบอันดับที่ 134
จะพยายามพัฒนาฝีมือขึ้นเรื่อยๆครับ
ที่เอาอัพขึ้นบล็อกเพราะจะได้บันทึกไว้ว่าแข่งรายการไหน เคยได้สูงสุดที่เท่าไหร่
จะได้เป็นเป้าหมายที่ผมจะต้องทำลายสถิติสูงสุดเดิมให้ได้




ส่วนการฝึกเทรดเดอร์กับทาง MudleyGroup สัปดาห์นี้ผมทำ CF ไม่ได้เลย และทีมผมก็ทำไม่ได้ด้วย เลยโดนกิน Cash ไปเยอะเลย
โดยรวมทุกทีม Port Value ใช้ได้เลยครับในภาวะตลาดแบบนี้

วันอาทิตย์ที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๓

Betting Trade

ผ่านไปสัปดาห์แรกสำหรับการฝึก Betting Trade ของเหล่าเทรดเดอร์ฝึกหัดรุ่นแรกของ MudleyGroup ครับ

เข้าไปดูผลได้ตามลิ้งค์นี้ครับ
http://mudleygroup.blogspot.com/2010/11/week-46-2010-standing.html

สำหรับคำตอบที่ผมจะตอบ ขอตอบทางบทความนี้แล้วกันครับ
เพราะตอบในคอมเม้นต์บางคนอาจจะพลาดไม่ได้อ่าน

ในรุ่นแรก แต่ละทีมได้รับเงิน 65000 ในตอนเริ่มต้นครับ
และจะมีการสรุปผลกันทุกสัปดาห์

ขอขโมยรูปจากบล็อก MudleyGroup มาประกอบแล้วกัน ^ ^



ยอด cash คือเงินสดสิ้นสัปดาห์(หลังจากบวกลบ CF Bonus)
ยอด Port Value คือมูลค่าพอร์ทสิ้นสัปดาห์(หลังจากบวกลบ CF Bonus)

เอาให้เห็นชัดขึ้น ทีม Eagle เมื่อเราเอา HP(CF Bonus) ที่ทาง Eagle เสียไปในสัปดาห์แรก 26.81 มารวมกับ cash รวมกับ port value จะเท่ากับ 65000 ทั้ง2ส่วนเลย
แปลว่าทีมนี้ยังไม่ได้ขยับตัวทำอะไรเลย อาจจะรอดูสถานการณ์แล้วรอซื้อตอนตลาดวิ่งขึ้น ไม่อยากเสี่ยงกับตลาดที่ไม่แน่นอนในช่วงนี้

อีกสองทีมก็มีการขยับกันแล้ว โดยมูลค่าพอร์ทต่ำกว่า 65000 และ Cash น้อยกว่ามูลค่าพอร์ท แปลว่ายังมีหุ้นที่ซื้อมาแล้วขาดทุนอยู่(ห้ามขายขาดทุน)
มีทีม Shark ที่ได้ CF ทีมเดียวแสดงว่ามีปิดกำไรได้บ้างนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้เยอะอะไร
ข้อมูลพวกนี้ลองเอามาใช้อ่านเกมทีมอื่นๆได้ด้วยครับ แต่ระยะแรกอาจจะยังไม่ชัดนัก เพราะอาจจะยังทำตามกลยุทธ์ที่วางไว้ได้ยังไม่ครบกัน

ส่วนการเล่นเป็นทีม คือการวางแผนแบ่งหน้าที่กันครับ คงจะรู้กันแล้วว่าต้องเทรดหุ้นที่มีใน stock futures+tdex
แต่ละทีมก็ทำการแบ่งหน้าที่ว่าใครจะดูแลตัวไหนบ้าง วงเงินเท่าไหร่
ถ้าต้องการให้กลยุทธ์ในทีมสอดคล้องกัน ก็วางแผนไปถึงวิธีการเล่นได้ครับ ว่าจะเล่นกันยังไง เหมือนกันทั้งคู่ หรือต่างสไตล์กัน
ใครมีไอเดียอะไรก็ใส่ลงไปได้ครับ

^ ^

วันอังคารที่ ๑๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๓

9th

อัพบล็อกซะหน่อย

วันนี้ผมลองไปเล่นทัวร์นาเม้นต์ Freeroll จากเว็บนึง(ขอไม่เอ่ยชื่อแล้วกัน)
มีคนเล่นทั้งหมด 540 คน
จะมี2คนที่ได้ผ่านไปเล่นในทัวร์นาเม้นต์ต่อไป เหมือนกับหาคนผ่านเข้ารอบอะครับ

ผมสามารถเข้าไปได้ถึง Final Table(9คนสุดท้าย) แล้วก็จบในอันดับที่9นั่นแหละ ^ ^

finished9

ถือว่าสนุกมากเลยครับ แต่เหนื่อยเหมือนกัน

วันอาทิตย์ที่ ๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๓

ตัวอย่างการบันทึกผลเพื่อส่ง Resume ไปยัง MudleyGroup

ผมก็อปมาจากคอมเม้นต์ของผมจากบล็อก MudleyGroup มาโพสต์พร้อมแปะรูปให้ดูกันนะครับ พอดีมีคนเข้าลิ้งค์ที่ให้ไปไม่ได้

1.เปิดบัญชี facebook แล้วไปเล่นเกมโป๊กเกอร์ รุ่นแรกเล่น texas holdem ของค่าย zynga กันครับ

2.บันทึกการเล่นโป๊กเกอร์ระยะเวลา1สัปดาห์

โดยรายละเอียดการจดให้จด
-ชื่อผู้เล่น(ไม่ต้องชื่อจริงก็ได้ครับ เอาที่เรียกกันง่ายๆ)
-เงินเริ่มต้นในแต่ละวันที่เล่น
-เวลาที่กดเข้าไปนั่งในโต๊ะ
-stake ที่เล่น (ตัวเลขที่เป็น 5/10, 10/20 อะไรพวกนี้อะครับ)
-จำนวนชิพที่เอาลงเล่นในครั้งนั้น
-เวลาที่ออกจากโต๊ะ(ทุกกรณีไม่ว่าจะออกเพราะลุกเองหรือหมดตัว)
-ระยะเวลา
-จำนวนชิพที่เหลือ
-กำไร/ขาดทุน

พอเข้าไปนั่งใหม่ หรือว่าชิพหมดแล้วจะลงใหม่ก็บันทึกแยกใหม่ครับ
-เวลาที่เข้า
-จำนวนที่ลง
-ฯลฯ

ตัวอย่างการบันทึกครับ

Photobucket


edit เพิ่มนะครับ ใส่รูปให้ดูว่าตรงไหนคือ stakes

Photobucket

Photobucket

วันอังคารที่ ๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๓

Reflexivity

บทความนี้เป็นการสรุปความเข้าใจของผมต่อแนวคิดของโซรอส ซึ่งผมได้ลองถามพี่ต้าน MudleyGroup เพื่อยืนยันว่าผมเข้าใจถูกต้องหรือไม่


ปลาหมึก
คือผมสนใจความคิดของ Soros มาระยะนึงแล้ว ตอนอ่าน the new paradigm for financial market และบทความต่างๆ ผมก็ยังไม่เข้าใจเท่าไหร่
อาจจะเพราะเป็นทั้งภาษาและเป็นแนวคิดที่ต่างจากเศรษฐศาสตร์ในตำราทั่วไปหรืออะไรก็แล้วแต่

ตอนนี้ผมคิดว่าความเข้าใจของผมน่าจะมีเพิ่มขึ้นมาบ้าง จึงอยากจะถามดูครับว่าผมเข้าใจถูกต้องรึเปล่า และเข้าใจในระดับไหน

อย่างแรกเรื่องคือ ตลาดไม่มีความสมบูรณ์แบบ เนื่องมาจากตลาดเคลื่อนไหวจาก action ของคน และคนมีการรับรู้ที่ผิดพลาดอยู่แทบจะตลอดเวลา
ในบางกรณีเช่นความคาดหวังต่ออนาคต มันเป็นการทำนายสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งไม่มีอะไรบ่งบอกได้แน่นอนว่าจะเกิดขึ้น เพราะสิ่งที่จะขึ้นนั้นต้องเป็นผลรวมมาจาก action ของคนทุกๆคน
ซึ่งในความเป็นจริง ไม่มีใครที่จะรู้ว่าคนทุกๆคนจะทำอะไร อาจจะมีบ้างที่มีกลุ่มคนที่มีอิทธิพลสามารถชี้นำได้ แต่ไม่ทั้งหมด

จากการรับรู้ที่ผิดเพี้ยนส่งผลให้เกิด action ที่ผิดเพี้ยนเช่นกัน ดังนั้นตลาดจึงเกิดภาวะฟองสบู่เป็นระลอกๆ อยู่ที่ว่าจะเป็นฟองสบู่ในรอบเล็กๆเช่นระยะปี หรือรอบใหญ่ๆเช่นระยะสิบๆปี โดยฟองสบู่ที่ใหญ่เป็นการสะสมความผิดพลาดต่างๆจากเล็กๆ แต่ไม่ได้รับการแก้ไขที่ถูกต้อง มันจึงสะสมเป็นลูกใหญ่

ในระยะยาวจะมีการปรับสมดุลอยู่ตลอดเวลา เช่นเมื่อ ราคา วิ่งหนี ปัจจัยพื้นฐานไปมากๆ จะต้องมีการปรับสมดุลเกิดขึ้น เช่นมีคนรับรู้ความจริงว่าตอนนี้ราคามันเป็นฟองสบู่แล้วก็จะเกิด action สวนทางกลับมายังพื้นฐานของมัน แต่แน่นอนว่าตลาดไม่สมบูรณ์แบบ action อาจจะแรงเกินไปทำให้ลงมาต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานเนื่องจากเป็นการ action จากคนจำนวนมากที่มีทั้งรู้ข้อมูลจริงและไม่รู้ข้อมูลจริง จนเมื่อถึงเวลาหนึ่งจะมีคนรับรู้อีกว่า ราคาต่ำกว่าพื้นฐาน จะมีการ action ย้อนกลับขึ้นไปอีกครั้ง

ส่วน reflexivity ตามความเข้าใจของผมคือ
1.ตลาดสะท้อนปัจจัยและข้อมูลต่างๆออกมา (ซึ่งข้อนี้เป็นที่รับรู้ของคนทั่วไปอยู่แล้ว)
2.ตลาดมีอิทธิพลส่งผลสะท้อนกับไปยังปัจจัยและข้อมูลต่างๆด้วย

จากข้อ2 แปลว่าการรับรู้ของคนเรานั้น(ความคิด) เมื่อไปทำให้ตลาดเกิด action มันจะสามารถสะท้อนไปยังปัจจัยต่างๆ(ความจริง)ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตามได้ แม้ว่าจะเป็นการรับรู้มาแบบถูกต้องหรือไม่ถูกต้องก็ตาม
เช่นถ้าเกิดราคาสินค้าชนิดหนึ่งสูงขึ้น มันจะส่งผลมายังผู้ที่เกี่ยวข้องกับสินค้านั้นๆอย่างไม่ต้องสงสัย ปัจจัยต่างๆจึงสามารถเปลี่ยนแปลงตามราคาได้

ไม่แน่ใจนะครับว่าผมเข้าใจได้ถูกหรือผิด มากน้อยขนาดไหน แถมไม่รู้ว่าอ่านรู้เรื่องรึเปล่า
คิดว่าพี่ต้านน่าจะเข้าใจแนวคิดต่างๆดี ก็เลยอยากถามว่าระดับความเข้าใจของผมเป็นยังไงบ้างครับ



MudleyGroup
ใช่เลยครับ นี่คือหัวใจพื้นฐานที่สำคัญของ Reflexivity ซึ่งคนส่วนมากจะมองแค่ข้อ1 ทั้งๆที่ข้อ 2 ก็สำคัญไม่แพ้กัน เช่นเพราะเรื่องของราคาตลาดมันสามารถสะท้อนมายังพื้นฐานของสินค้าได้เช่นกัน อย่างเช่น ในบลาซิล ตอนพี่ซื้อ-ขาย เอทานอล อยุ่ พอราคา เอทานอลมันพุ่งขึ้น จนเกิดกระแส ผู้คนในวงการเกษตรของบลาซิลต่างก็หาเหตุผลมา support การขึ้นของราคานั้น จนทำให้โรงงานเอทานอลเกิดความโลภอยากกักตุนไว้เพราะอยากได้ราคาสูงๆ สุดท้ายก็ยิ่งส่งเสริมทำให้ราคา เอทานอล ในบลาซิลตอนนั้นยิ่งสูงขึ้นไปอีก จนเกิดฟองสบู่ขึ้นมา หลังจากนี้พอมันสุดโต่งไปมากๆหลายๆคนเริ่ม Realize ก็จะทำให้เกิดการเทขาย เพราะถ้าราคามันแพงไปมากกว่านี้ก็จะมีคนไปนำเอทานอลจากประเทศอื่นเข้ามาขายแทน ทีนี้คนก็เริ่มแห่ขาย พวกโรงงานที่กักตุนไวเริ่มตกใจกลัวว่าตนจะขายได้ราคาไม่ดี ก็พากันขนออกมาขายกันใหญ่ จนราคาในตลาดรองรับ supply ไม่ทันส่งผลให้ตลาดดิ่งลงอย่างรวดเร็ว ก็อย่างที่น้องปลาหมึกเข้าใจล่ะครับ :)

วันอังคารที่ ๒๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๓

วันอาทิตย์ที่ ๒๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๓

50K Poker Players Championship - World Series of Poker 2010

ยาวหน่อยนะครับ แต่สนุกมาก











วันเสาร์ที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๓

2009 World Series Of Poker Final Table Heads-Up Joe Cada v. Darvin Moon

เอาคลิปการแข่งขัน WSOP ปี 2009 มาให้ดูกันครับ




วันเสาร์ที่ ๑๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๓

John W. Henry



วันนี้ขอแนะนำเทรดเดอร์ที่กำลังโด่งดังในฐานะเจ้าของกิจการกีฬาดังๆระดับโลก โดยเฉพาะล่าสุดกลุ่ม NESV ของเขาสามารถเทคโอเวอร์กิจการฟุตบอลชื่อดังอย่าง"ลิเวอร์พูล"ได้

ทีนี้เรามารู้จักเขาในฐานะเทรดเดอร์กันดีกว่า

เฮนรี่เริ่มต้นการเทรดข้าวโพดและถั่วเหลืองในตลาดล่วงหน้า เพื่อที่จะเรียนรู้การป้องกันความเสี่ยงจากการถือสินค้าในกระบวนการผลิตของสินค้าโภคภัณฑ์ จากนั้นมีโบรกเกอร์ในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์มาขอให้เขาให้คำปรึกษากับเกษตรกรรายอื่นๆ ซึ่งเขาปฏิเสธไป และต่อมาเขาได้พัฒนาระบบ Trend Following สำหรับการเทรดในบัญชีตลาดล่วงหน้าของเขาขึ้นและมีการทดลองระบบ trend-reversal ด้วย เมื่อการทดลองระบบต่างๆของเขาประสบความสำเร็จเขาก็ได้ตั้งบริษัท JWH ขึ้นมา



เรามาดูปรัชญาในการเทรดของเฮนรี่กันดีกว่า

ผมไม่เชือว่าผมเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่สามารถคาดการณ์ราคาในอนาคต ไม่มีใครสามารถคาดการณ์อะไรก็ตามได้อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักลงทุน ถึงอย่างไรก็ตามนักลงทุนหวังหรือเชื่อว่าพวกเขาสามารถที่จะคาดการณ์อนาคตได้ หรืออย่างน้อยต้องมีใครสักคนที่ทำได้. พวกเขาจะจับจ้องว่าคุณจะคาดการณ์เกี่ยวกับเศรษฐกิจในอนาคตว่าอย่างไร เราอาศัยความจริงที่ว่านักลงทุนเชื่อมั่นว่าพวกเขาสามารถทำนายอนาคตได้ และผมเชื่อว่านั่นคือที่มาของกำไรของพวกเรา ผมว่านี่มันเป็นเรื่องที่เรียบง่าย

John W. Henry



ตั้งแต่ที่ผมออกแบบลงไปในระบบ Trend Following วิธีการ กลไก และระบบคณิตศาสตร์ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลย ระบบยังคงประสบความสำเร็จมาจนถึงทุกวันนี้ แม้ว่าจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมันเป็นเวลากว่า18ปีแล้ว

John W. Henry



ด้านล่างนี้มีน้องคนนึงช่วยแปลให้นะครับ ต้องขอขอบคุณน้องโต้งด้วย

ถ้าเราจะหาคำนิยามมาอธิบายปรัชญาการลงทุนของ เฮนรี่ เราคงสรุปได้ว่า “ไม่มีใครบอกอนาคตได้” เฮนรี่นั้นเป็น Trend follower ที่เล่นระยะยาว ปรัชญาในการลงทุนของคือเขาให้ความสนใจพฤติกรรมราคาในตลาด มากกว่าจะมองหามูลค่าพื้นฐานของตลาด กุญแจดอกสำคัญคือข้อมูลที่ใช้ในการตัดสินใจลงทุน เขาบอกว่า ตลาดนั้นเต็มไปด้วยความคาดหวังของผู้คนที่อยู่ในตลาด และความคาดหวังนี้ แสดงออกมาเป็นลักษณะการเคลื่อนไหวหรือทิศทางของราคา ทุกวันนี้เราอยู่บนโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน เราไม่สามารถบอกอนาคตได้ และในโลกของความไม่แน่นอนนี้ การวิเคราะห์ราคาและทำตามพฤติกรรม( trend following)หรือ ตามทิศทางราคานั้น ๆ ดูจะเป็นเหตุเป็นผลที่สุดในการลงทุนระยะยาว เฮนรี่รู้สึกว่า การใช้กลไลตลาดประเมินตัวมันเองมีคุณค่ามากกว่าการใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์หรือ การทดสอบที่ใช้อะไรวัดอย่างตายตัวมาประเมินกับการเทรดที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ เฮนรี่บอกว่า เมื่อเขาทำการศึกษาตลาดครั้งแรกตอนปี 1970 เขาพยายามหาระบบที่เหมาะกับทุก ๆ สภาพตลาด ซึ่งการศึกษาของเขาพบว่าการลงทุนระยะยาวนั้นเหมาะสำหรับตลาดทุนมาเป็นสิบ ๆ ปีแล้ว เราจะมีความรู้สึกหนึ่งที่ครอบงำเราให้ตัดสินใจตรงข้ามกับตลาดเสมอ คือสิ่งที่คนอื่นเรียกว่า “หลีกเลี่ยงความผันผวน” ด้วยการเหมาว่า ความผันผวนนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ดี อย่างไรก็ตามเขาพบว่าการหลีกเลี่ยงความผันผวน นั้นเป็นพฤติกรรมที่ไม่สามารถจะอยู่ในตลาดในช่วงที่เกิดเทรนด์ระยะยาวได้ ความรู้สึกที่จะป้องกันเงินทุนของเราไว้เป็นต้นทุนที่มหาศาลที่เกิดขึ้นในใจนักเทรดมาเป็นสิบ ๆ ปีแล้ว ระบบการลงทุนระยะยาวจะไม่หลีกเลี่ยงความผันผวน เราจะต้องอดทนและผ่านช่วงเวลาเหล่านี้ไปให้ได้ ซึ่งจะทำให้เราลดการปิดออร์เดอร์ตอนราคาอยู่กลางเทรนด์เมื่อเกิดเทรนด์ยาว ๆ ได้

วันจันทร์ที่ ๑๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๓

How to use SMAs

พอดีผมเห็นบางคนใช้ sma ในการเทรด โดยอาศัยการตัดกันของเส้นในการหาจังหวะเข้า

เลยนำตัวอย่างในมุมมองของผม กับความรู้ที่ผมไปซุ่มเก็บตัวเรียนรู้มาระยะนึง มาให้ดูกัน

sma


sma


สำหรับผม วิธีที่เราน่าจะใช้กับ SMAs น่าจะเป็นการให้เส้นตัดกันแล้วรอให้เส้นเรียงกันเป็นเส้นขนานมุ่งหน้าไปในทิศทางเดียวกัน
จากนั้นรอจังหวะให้ราคาพักตัว และดูการเบรกกลับไปยังเทรนด์หลัก จากนั้นจึงค่อยเข้าเทรด

(ภาพตัวอย่างเป็นกราฟราคา XAU/USD(ทองคำต่อยูเอสดอลล่า) แต่คนละ time frame ครับ)

วันพุธที่ ๑๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๓

Advanced Currency Converter

by borrowisely.com

วันพุธที่ ๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๓

การสะกด คะ ค่ะ ที่ถูกต้อง

ไปเจอคลิปดีๆ เลยนำมาแปะให้ดูกันครับ

วันอาทิตย์ที่ ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๓

ปัจจัยสำคัญในการพัฒนาสังคม

เงื่อนไขหลักที่จะทำให้สังคม ให้ประเทศชาติ โดยเฉพาะในระบอบประชาธิปไตยพัฒนาได้คือคุณภาพของคน เมื่อเอ่ยแบบนี้ส่วนมากจะมองไปถึงการศึกษา ซึ่งถูกต้อง แต่ยังไม่ใช่ทั้งหมด ยังมีเรื่องของรายได้มาเกี่ยวข้องด้วยครับ

  • การศึกษาในที่นี้ไม่ได้หมายถึงใบปริญญา แต่หมายถึงคุณภาพทางการศึกษา คือเมื่อได้รับการศึกษาแล้วจะรู้จักคิด วิเคราะห์ ไตร่ตรอง มีเหตุมีผล รู้ผิดชอบชั่วดี หรือสรุปง่ายๆว่าการศึกษาต้องให้ปัญญา ไม่ใช่ให้แต่ปริญญา
  • รายได้ เมื่อเทียบกับการศึกษาแล้ว การศึกษาจะเป็นระยะยาว รายได้เป็นระยะสั้น แต่ถ้าสั้นๆไปไม่รอด ระยะยาวก็ไปไม่ได้เช่นกัน คนเราย่อมต้องคำนึงถึงปากท้องของตัวเองก่อน การจะไปนึกถึงสังคม ไปช่วยสังคมทั้งๆที่ยังเอาตัวเองไม่รอดนั้นคงไปได้ยากมาก ถึงคิดแต่ก็จะมีข้อจำกัดต่างๆมาขวางกั้น จากการสำรวจประเทศที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตย ถ้าประเทศไหนรายได้เฉลี่ยต่อหัวต่ำ จะมีโอกาสล้มเหลวสูงมาก เพราะยังเอาตัวเองไม่รอดกัน เงินซื้อเสียงแม้ไม่มากก็เป็นประโยชน์มากสำหรับคนที่ไม่มี
การจะพัฒนาประเทศได้ หลักๆแล้วต้องให้ประชาชนมีปัญญาและมีรายได้ในระดับที่ดี จึงจะสามารถขับเคลื่อนอุดมการณ์ดีๆในประเทศร่วมกันได้

วันเสาร์ที่ ๒๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๓

"ถ้าฉลาด แล้วโกง...อันนี้ก็โง่แล้ว" คุยแกมดี! กับ พี่ต่อ ธนญชัย ศรศรีวิชัย

คุยแกมดี! กับ พี่ต่อ ธนญชัย ศรศรีวิชัย
ผู้กำกับโฆษณาที่กวาดรางวัล
มา ทั่วโลก จนถูกจัดอันดับเป็นอันดับ 1 จากหลายสถาบัน งานของเขาไม่ใช่ความสร้างสรรค์ ที่เน้นแต่ "ความแปลก" แต่คืองานที่มีเนื้อหา และพูดตรงจุด ตรงใจคนฟัง

และ นี้คือความคิดสร้างสรรค์ในมุม ของผู้กำกับคนนี้ครับ




ที่มา iCARE-CLUB

วันจันทร์ที่ ๑๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๓

การตัดสินใจ

หลายๆคนต้องการที่จะเข้ามาหาเงินจากตลาดทุน มีหุ้นบางตัวที่น่าดึงดูดหรือเป็นประเด็นตามหน้าเว็บบอร์ดหุ้น
การที่เข้าไปถามคนตามเว็บบอร์ดว่าซื้อดีรึเปล่า หรือไปเชื่อการเชียร์หุ้นตัวใดตัวหนึ่ง นั่นแปลว่าเรายกอำนาจในการตัดสินใจของเราให้กับบุคคลที่เราไม่เคยเห็นหน้า เราเชื่อคนอื่นมากกว่าตัวเองขนาดนั้นเชียวหรือ บางคนอาจจะบอกว่าถ้าเค้าคนนั้นบอกผิด ก็จะไม่โทษเพราะไปเชื่อเค้าเอง แต่ผมเห็นไม่เพียงแต่ไม่ควรไปโทษคนที่บอกผิด ควรจะโทษตัวเองที่ไร้ความรับชอบต่อการตัดสินใจของเราเอง
คนที่ไม่สามารถแม้แต่จะตัดสินใจได้ด้วยตัวเองประสบความสำเร็จได้ยากครับ

วันเสาร์ที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๓

2012

เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2553 ผมได้ไปฟังดร.ก้องภพมาเล่าเรื่องราวต่างๆที่น่าสนใจ ที่พวกเราสงสัยแต่ยังไม่ยอมรับให้ฟังกันในงานนี้ http://www.lonelytrees.net/?p=1739

โลกร้อนไม่ได้มาจากฝีมือของมนุษย์เพียงอย่างเดียว ปัจจัยที่ใหญ่กว่าและป้องกันไม่ได้คือระบบสุริยะที่เคลื่อนตัวเข้าบริเวณแนวระนาบของทางช้างเผือกต่างหากที่เป็นปัจจัยหลัก

ผมไม่ได้มีความรู้อะไรเกี่ยวกับจักรวาลมากนัก ขอนำลิ้งค์มาแปะให้อ่านกันดีกว่า

เรื่องนี้จะเกิดหรือไม่ ถ้าเกิดจะร้ายแรงขนาดไหนนั้น ผมว่าเราเตรียมพร้อมไว้ก่อนดีกว่า การเตรียมพร้อมก็ไม่ได้ลงทุนอะไรมากมายและได้ประโยชน์ทั้งนั้นต่อให้ไม่เกิดเหตุร้าย
สิ่งที่ผมคิดว่าน่าจะเตรียมไว้คือ
  • ร่างกาย เราควรจะออกกำลังกายกันบ้าง อย่างน้อยหาเวลาวันละนิดหรือในวันหยุดก็ออกไปวิ่งตามสวนสาธารณะก็ไม่เลว
  • น้ำ อาหารแห้ง พวกมาม่าอาหารกระป๋องเตรียมๆไว้บ้างก็ดี แต่ยังไม่ต้องรีบมากนัก เพราะเดี๋ยวมันจะหมดอายุซะก่อน และน้ำเป็นสิ่งจำเป็นมากขาดไม่ได้
  • เมล็ดพืช เมล็ดพืชพวกผัก พวกผลไม้ และสมุนไพร จะเป็นประโยชน์ในระยะยาว เมื่อได้มาแล้วแบ่งมาปลูกรอบๆบ้าน หรือใครมีที่ดินเยอะๆยิ่งดีใหญ่ พวกนี้จะเป็นอาหารและยาให้เราในอนาคต แม้จะไม่เกิดเหตุการณ์อะไร การลงทุนนี้ก็ถือว่าคุ้มค่าเพราะช่วยประหยัดค่าอาหารและยา ซึ่งเป็น 2 ใน 4 ของปัจจัย4
  • จิตใจ สมาธิ ผมว่าเราควรจะต้องฝึกสมาธิเพื่อจะมีสติในการรับมือกับปัญหาต่างๆ ซึ่งมีประโยชน์มากต่อการใช้ชีวิตของคนเรา ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง
  • ทำในสิ่งที่อยากทำ อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง ในคิดว่าเวลาของเราเหลือน้อย มีความฝันอะไรก็รีบมุ่งหน้าเดินตามความฝัน ในข้อนี้ผมก็มองเห็นแต่ด้านดี เพราะทำให้เราเลิกนิสัยเสียที่บอกว่าเดี๋ยวค่อยทำ หรืออ้างว่ายังไม่พร้อม และถ้าไม่เกิดร้ายในปี 2012 เราก็ได้ไปยืนอยู่บนเส้นทางที่ฝันแล้ว