วันอาทิตย์ที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๐

Festival Marketing

Festival Marketing หรือการตลาดเทศกาล(ผมไม่รู้ว่าเค้ามีชื่อเรียกเฉพาะรึเปล่า อันนี้ผมมั่วขึ้นมาเอง)
การตลาดในรูปแบบนี้เราเห็นกันได้บ่อยๆ ในทุกๆเทศกาลโดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีเทศกาลสำคัญๆเยอะมากๆ เพราะคนไทยเปิดรับหมดทุกวัฒนธรรม แต่ผมคิดได้อย่างนึงว่าวันสำคัญต่างๆที่รับมาจากต่างชาติที่ทุกคนคิดว่ามันสำคัญ มันสำคัญจริงๆหรือ หรือว่าเรากำลังถูกปลูกฝังให้คิดแบบนั้น ซึ่งผมมองว่ามันเป็นอย่างหลังมากกว่า ลองดูวันวาเลนไทน์ที่กำลังจะถึงนี้นะครับ ร้านส่งดอกไม้ชื่อดัง ร้านขายดอกไม้ต่างๆโดยเฉพาะดอกกุหลาบจะขายดีมากๆ ทั้งยังสามารถโก่งราคาได้อีกต่างหาก(ประมาณว่าถ้ามึงไม่ซื้อก็เตรียมเลิกกับแฟนไปได้เลย) แล้วยังมีร้านช็อกโกแลตที่สามารถขายได้ดีมากๆเช่นกันในเทศกาลนี้ ส่วนราคาผมคิดว่าไม่น่าจะขึ้นนะครับเพราะเป็นFixed Costซะส่วนใหญ่ นอกจากจะออกเวอร์ชั่นพิเศษเป็นกล่องของขวัญสำหรับเทศกาลวาเลนไทน์ รวมไปถึงนาฬิกายี่ห้อหนึ่งที่ผมรู้สึกว่าในหนึ่งปีมันผลิตมาได้หลายเวอร์ชั่นมากๆ ใครเป็นแฟนพันธุ์แท้คงซื้อตามไม่ทัน ตามห้างสรรพสินค้าจะตกแต่งด้วยสีแดง,รูปหัวใจ,ดอกกุหลาบ,คิวปิด,ฯลฯ

สิ่งที่ผมอยากจะบอกก็คือเรากำลังตกเป็นทาสของกระแสทางสังคม(ปลอมๆ)ที่ถูกนักการตลาดสร้างขึ้นมา แล้วเราดันเชื่อว่ามันเป็นจริง ผมขอถามว่าคุณจะเลิกกับแฟนของคุณรึเปล่าถ้าเขาไม่ให้ดอกกุหลาบในวันวาเลนไทน์? คุณจะตายหรือไม่ถ้าไม่มีแฟนในวันวาเลนไทน์? คุณจะขอแค่ได้รับความรักจากวันนี้วันเดียวหรือ? สิ่งต่างๆเหล่านี้เปรียบเทียบได้กับวันพ่อวันแม่ หลายๆคนให้ความสำคัญกับคนที่ตัวเองรักเพียงแค่1วันใน365วัน
ยังมีคนหลายๆคนพยายามหาแฟนให้ได้ก่อนวันวาเลนไทน์โดยเฉพาะสาวๆ(อันนี้เรื่องจริงที่ผมได้รับรู้มาจากเจ้าตัวหลายๆคน) ซึ่งผมว่ามันเป็นเรื่องของการโอ้อวดหรือกลัวขายหน้ามากกว่า(ทีก่อนหน้านี้ยังโสดมาได้)เพราะใครๆก็ต้องรับของขวัญ อันนี้แหละคือจุดอ่อนที่ทำให้เกิดช่องโหว่ขนาดใหญ่จนเกิดกระแสขึ้นมา แล้วนักการตลาดจะอาศัยอารมณ์อันอ่อนไหวมาเป็นเครื่องมือหากิน

แต่ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ผมไม่ได้แอนตี้นะครับ การแสดงความรักเป็นสิ่งที่ดี แต่กรุณาหาของขวัญที่ไม่เดือดร้อนตนเองนัก(ไม่ต้องกลัวแฟนงอน ถ้ามันงอนเรื่องแค่นี้ก็....*_* ) ส่วนคนที่เป็นฝ่ายรับก็อย่าคาดหวังอะไรที่มันเว่อร์มากนัก แค่รักกันก็พอแล้วครับ

ปล.ทำไมไม่เคยมีแฟนในวันวาเลนไทน์วะ อยากรู้ว่าจะหลงไปกับกระแสนี้ด้วยรึเปล่า แต่ช่างเหอะอยู่อย่างนี้แหละดีแล้ว สบายใจดี^_^
บล็อกนี้มันล่อเป้าให้โดนด่ารึเปล่าเนี่ย?

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ก้อลองมีซะสิค่ะ อยากจะรู้เหมือนกัน ว่าคุณกานต์จะตามกระแสนี้รึเปล่า

แล้วแน่ใจรึ ว่าอยู่อย่างนี้อะ ดีแล้ว หุหุ

แล้วจะคอยดูนะค่ะ