วันพุธที่ ๒๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๒

มาเพิ่ม Trading Skills และ Profitability กันเถอะ

พอดีผมได้อ่านบทความสั้นชื่อ Seven Tools to Boost Trading Skills and Profitability จึงมานำสรุปไว้อ่านเองและให้ผู้ที่สนใจได้อ่านกันด้วย และอาจจะเพิ่มเติมความเห็นของผมไปด้วยนิดหน่อย

เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จแทบจะทุกคน จะมีการบันทึกสิ่งที่เรียกว่า "Trading Journal"
พวกเขารู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ทรงพลังที่มีอิทธิพลต่อทักษะในการเทรดและรวมไปถึงความสามารถในการทำกำไร
อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าจะทำ Trading Journal อย่างไรให้มีประสิทธิภาพ
และนี่จะเป็นแนวทางที่จะดึงคุณเข้าสู่อาณาจักรของ Profitable Trader

1.จดตัวเลข
บันทึกโน๊ตสำหรับตลาดหลัก(หรือหุ้น)ที่คุณเทรดอยู่หรือตลาดที่สนใจ วิธีไม่ได้ยุ่งยากอะไรเพียงดูบนกราฟหรือตารางแล้วจดบันทึกสิ่งเหล่านี้ High, Low, Open, Close, Volume ของตลาดหรือหุ้นที่ติดตามอยู่ อาจจะเพิ่มการโน๊ตสัญญาณของ indicators สำคัญไว้ด้วยก็ได้
วิธีนี้ไม่เป็นเพียงการฝึกฝนที่จะช่วยปรับให้เราเข้ากับตลาด(หุ้น)ที่เราสนใจเท่านั้น
แต่ยังช่วยให้เรามีพัฒนาการด้านทักษะในการอ่านเกมจากข้อมูลดิบได้อย่างรวดเร็วขึ้น

2.บันทึกทุกๆการเทรด
นี่เป็นพื้นฐานของการทำ Trading Journal และเป็นปัจจัยสำคัญที่จะเปลี่ยน/ปรับปรุงคุณสมบัติและความสามารถที่เรามีอยู่ให้ดีขึ้น

3.บันทึกความคิดและอารมณ์ในการเทรด
ถ้าเราต้องการที่จะรู้จักจิตวิทยาในการเทรดของตัวเอง นี่เป็นแนวทางที่เป็นจริงและแน่นอน
ความคิดและอารมณ์เป็นสภาวะของพฤติกรรม
ซึ่งจะเป็นแบบแผนที่ใช้เทรดในตลาด
เป็นแบบแผนที่กระตุ้นเราในการเทรด 
ดังนั้นเราควรจะเรียนรู้ความคิดและอารมณ์ของตัวเราเอง

4.บ่งชี้ "จุดแข็ง" และ "ข้อจำกัด" ของตัวเอง
คุณต้องรู้ว่าคุณมีดีอะไรที่จะเป็นที่พึ่งพาได้ และมีขอบเขตขนาดไหน
รวมไปถึงการเชื่อมโยง ความคิด อารมณ์ และพฤติกรรมเข้ากับ "จุดแข็ง" และ"ข้อจำกัด"ด้วย

5.พัฒนาแผนการที่จะเอาชนะข้อจำกัดในตัว
นี่เป็นประเด็นที่ต้องทำ Trading Journal ขึ้นมา
เลือกข้อจำกัดขึ้นมาสักข้อที่ต้องการจะเปลี่ยนและพัฒนา
ดูจุดแข็งเพื่อใช้เป็นแนวทางให้การพัฒนาปรับปรุงจุดอ่อนไปในแนวทางเดียวกับจุดแข็ง
ต้องทำให้เกิดขึ้นจริงเพื่อให้เห็นผลในอนาคต

6.ติดตามดูการทำงาน(การเทรด,การพัฒนา)
ข้อมูลส่วนตัวที่บันทึกไว้จะแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการ รวมไปถึงเผยให้เห็นถึงขอบข่ายปัญหาที่ทำให้เราก้าวต่อไปไม่ได้
บันทึกผล ชนะ/แพ้ และข้อมูลที่เกี่ยวข้องยิ่งละเอียดยิ่งดี
เช่น เฉลี่ยผลชนะ/แพ้ , เฉลี่ยกำไร/ขาดทุนจากการชนะ/แพ้ , ผลชนะ/แพ้ ในช่วงสภาวะตลาดรูปแบบต่างๆ
มาถึงตรงนี้จะเห็นถึงประโยชน์ของ ข้อ2 ที่ให้บันทึกทุกๆการเทรด
ข้อมูลเหล่านี้จะทำให้เราวางแผนในการพัฒนาตัวเองต่อไปได้ง่ายขึ้น

7.ทำการบันทึกเป็นกิจวัตร
ทำเหมือนกับการเขียนไดอารี่ก่อนนอนครับ การทำ Trading Journal ก็ทำหลังการเทรดทุกๆวันที่เทรด ทุกๆสัปดาห์ ทุกๆเดือน ทุกๆไตรมาส และทุกๆปี เราก็นำมาดูเพื่อบ่งชี้ถึงขอบข่ายของเราว่าเป็นอย่างไร เหมือนกับนักกีฬาที่ต้องหมั่นฝึกซ้อมทุกๆวัน

ทั้งหมดนี้เป็นกระบวนการในการพัฒนาตัวเอง และเป็นแนวทางในการก้าวไปสู่เทรดเดอร์มืออาชีพ
เรามาเริ่มทำ Trading Journal กันเถอะ

ไม่มีความคิดเห็น: